อุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้าในชีวิตประจำวันที่ควรรู้จัก

      อุปกรณ์ป้องกัน เป็นอุปกรณ์ป้องกันอันตรายที่เกิดจากไฟฟ้า ในกรณีที่ไฟช๊อต ไฟดูด ไฟรั่ว หรือเกิดการลัดวงจร ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งอุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้าจะช่วยลดอันตรายที่เกิดจากไฟฟ้าได้ มาดูกันว่าอุปกรณ์ที่ช่วยป้องกันอันตรายที่เกิดจากไฟฟ้ามีอะไรบ้าง

 

 

 - เมนสวิตช์ (Main Switch) หรือ สวิตช์ประธาน เป็นอุปกรณ์ตัวหลักที่ใช้ตัดต่อวงจรไฟฟ้าของสายเมนเข้าอาคารกับสายภายในทั้งหมด ทำหน้าที่คอยควบคุมการใช้ไฟฟ้า ประกอบด้วย เครื่องปลดวงจร และเครื่องป้องกันกระแสเกิน ให้การงานไฟฟ้าของบ้านและอาคารมีความปลอดภัยมากขึ้น

 

 

 - เบรกเกอร์ (Circuit Breaker) หรือ สวิตช์ตัดไฟอัตโนมัติ เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ตัดหรือต่อวงจรไฟฟ้า สามารถตัดกระแสไฟฟ้าเกินหรือกระแสไฟฟ้าลัดวงจรโดยอัตโนมัติได้ด้วย

 

 

 - ฟิวส์ (Fuse) เป็นอุปกรณ์ป้องกันกระแสไฟฟ้าเกินอีกชนิด ที่ทำหน้าที่ตัดไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ เมื่อมีกระแสไฟฟ้าไหลเกินค่าที่กำหนด ซึ่งเมื่อฟิวส์ทำงานแล้วจะต้องเปลี่ยนฟิวส์ใหม่ และฟิวส์ที่ใช้เปลี่ยนต้องมีขนาดกระแสไม่เกินขนาดฟิวส์เดิม

 

 

 - เครื่องตัดไฟรั่ว (Residual Current Device) คือ เครื่องตัดไฟฟ้าอัตโนมัติ ที่ตัดกระแสไฟฟ้าภายในระยะเวลาที่กำหนด โดยจะตัดไฟเมื่อมีกระแสรั่วเกิดขึ้นกับวงจรไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ไฟฟ้า

 

 

 - สายดิน (Earthing System) คือ สายไฟที่ต่อจากอุปกรณ์ไฟฟ้า เป็นเส้นทางที่สามารถนำกระแสไฟฟ้าที่เกิดการรั่วไหลลงไปสู่ดิน และเป็นเส้นทางให้กระแสไฟฟ้ารั่วไหลกลับไปยังหม้อแปลงไฟฟ้า ทำให้เครื่องตัดไฟทำงาน

 

 

 

 

 

 -------------------------------------------------------------

 

 

บริษัท บางกอกแอบโซลูท อิเลคทริคแอนด์คอน จํากัด

    จำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้าและการบริการในระดับอุตสาหกรรม ตอบรับท้ังงานโปรเจค งาน รับเหมาก่อสร้าง กลุ่มร้านค้าปลีก ฯลฯ นอกจากนี้ บางกอกแอบโซลูท อิเลคทริคแอนด์คอน ยังเป็นตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้า แบรนด์ ABB และสายไฟฟ้าบางกอกเคเบิ้ล BCC

 

 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

Line : จำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้า @bangkokabsolute

https://web.facebook.com/bangkokab

สาระน่ารู้เกี่ยวกับการรับเหมาก่อสร้างโรงงาน

       สำหรับการรับเหมาก่อสร้างโรงงานนั้นได้รับความนิยมมากขึ้นในยุคปัจจุบัน เนื่องจากธุรกิจ SME หรือธุรกิจออนไลน์มีการเติบโตอย่างรวดเร็วส่งผลให้ผู้ประกอบการจำเป็นต้องก่อสร้างโรงงานเพิ่มเพื่อเพิ่มโอกาสในการขยายกำลังการผลิตให้กับสินค้าและบริการของตน ซึ่งถ้าหากมองเพียงผิวเผินก็จะคิดว่าการรับเหมาก่อสร้างโรงงานสามารถทำได้ง่ายไม่ยาก แต่แท้จริงแล้วการก่อสร้างโรงงานจำเป็นที่จะต้องขออนุญาตก่อนที่จะสร้างสามารถก่อสร้างโรงงานได้

 

รับเหมาก่อสร้างโรงงาน   รับเหมาก่อสร้างโรงงาน

 

 

หากจะจ้างผู้รับเหมาก่อสร้างโรงงานจำเป็นที่จะต้องคำนึงถึงประเภทของโรงงานตามกฎหมาย ดังนี้


• โรงงานประเภทที่1  คือ โรงงานที่มีเครื่องจักรไม่เกิน 20 แรงม้า และมีคนงานไม่เกิน 20 คน โรงงานประเภทนี้ สามารถดำเนินการได้เลยไม่ต้องขอใบอนุญาต
• โรงงานประเภทที่ 2 คือ โรงงานที่มีเครื่องจักรมากกว่า 50 แรงม้า แต่ไม่เกิน 75 แรงม้า (50-75 แรงม้า) และมีพนักงานมากกว่า 50 คนแต่ไม่เกิน 75 คน ไม่ต้องขอใบอนุญาตในการจัดตั้ง แต่จะต้องทำการแจ้งการความจำนนในการประกอบกิจการและชำระค่าธรรมเนียมรายปี
• โรงงานประเภทที่ 3 คือ โรงงานมีเครื่องจักรมากกว่า 75 แรงม้า และมีพนักงานในโรงงานมากกว่า 75 คน โรงงานประเภทนี้จะต้องทำการขอใบอนุญาตในการจัดตั้งโรงงาน (ใบร.ง.4) เนื่องจากถือว่าเป็นโรงงานที่อาจก่อให้เกิดมลภาวะ


       **** เงื่อนไขในการจัดตั้งโรงงาน หากเป็นโรงงานจำพวกที่ 3 (โรงงานที่มีเครื่องจักรขนาด 75 แรงม้าขึ้นไป และ มีพนักงานมากกว่า 75 คน) รวมทั้งโรงงานประเภทที่ 1 และ 2 ที่ถูกจัดรวมเป็นจำพวกที่ 3 เพราะกิจการอาจก่อให้เกิดมลพิษ จะต้องทำการขออนุญาตจัดตั้งโรงงาน และขอใบอนุญาตประกอบกิจการ นั่นก็คือใบ ร.ง.4 ****

 

เอกสารสำหรับการขออนุญาตประกอบกิจการโรงงาน ได้แก่


• คำขออนุญาตประกอบกิจการโรงงาน
• หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล (สำหรับกรณีโรงงานที่จดเป็นนิติบุคคล และ คัดลอกสำเนาไม่เกิน 3 เดือน)
• สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และ สำเนาทะเบียนบ้าน / หนังสือเดินทางของผู้ที่จะลงนาม
• หนังสือมอบอำนาจ (กรณีที่ไม่ได้มาดำเนินการด้วยตัวเอง)
• เอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดินที่จัดตั้งโรงงาน (โฉนดที่ดิน)
• แบบแปลนแผนผังอาคารภายในโรงงาน (จะต้องผ่านการลงนามรับรองความปลอดภัยจากวิศวกร)
• แผนผังแสดงการติดตั้งเครื่องจักร (จะต้องผ่านการลงนามรับรองความปลอดภัยจากวิศวกร)
• สำเนาหนังสืออนุญาตก่อสร้าง
• ขั้นตอนการผลิตโดยละเอียด
• เอกสารเพิ่มเติมอื่นๆ ที่เจ้าหน้าที่กำหนด


       **เอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารเบื้องต้นในการยื่นเพื่อขอใบอนุญาตจัดตั้งโรงงาน นอกจากเอกสารเบื้องต้นแล้วอาจจะมีเอกสารเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับประเภทของโรงงาน**

 

ขั้นตอนการไปยื่นเอกสารกับกรมโรงงานอุตสาหกรรมตามจังหวัดที่โรงงานทำการจัดตั้ง ดังนี้


• ผู้ประกอบการทำการยื่นคำขอจัดตั้งโรงงาน (ร.ง.3) และ เอกสารสำหรับการขอใบอนุญาตให้เรียบร้อย
• เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบความถูกต้องของเอกสาร และ สถานที่จัดตั้งโรงงาน ตั้งแต่กระบวนการผลิต การป้องกัน และ การบำบัด
• เจ้าหน้าที่จะทำการแจ้งผลการพิจารณาให้ผู้ประกอบการทราบ


       ***หากได้รับอนุญาตให้จัดตั้งโรงงานได้จะต้องทำการชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาต และ จัดตั้งโรงงานภายในระยะเวลาที่ระบุเอาไว้ และ ในกรณีที่ไม่ได้รับอนุญาตให้จัดตั้งโรงงานสามารถทำการยื่นอุทธรณ์ต่อรัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมได้ภายใน 30 วัน***

       ดังนั้นถ้าหากโรงงานเป็นประเภทที่3 แล้วทำการจัดตั้งโดยไม่ได้มีใบอนุญาตจะถือว่าโรงงานได้ฝ่าฝืนกฎหมาย พ.ร.บ โรงงาน มีโทษจำคุก 2 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ หรือโรงงานของประเภทที่ 2 ต้องแจ้งความจำนนในการประกอบกิจการก่อนจัดตั้งโรงงาน หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือ ปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ จะเห็นได้ว่าการขอใบอนุญาตจัดตั้งโรงงาน และ ประกอบกิจการมีความสำคัญอย่างมาก หากเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการที่กำลังวางแผน หรือ คิดจะสร้างโรงงาน อย่าได้ละเลยกฎหมาย และ อย่าลืมที่จะขอใบอนุญาตก่อนจัดตั้งโรงงาน ไม่อย่างนั้นโรงงานคุณอาจจะเป็นโรงงานผิดกฎหมายได้ (ผิดกฎหมาย พ.ร.บ โรงงาน)

 


       บริษัท ช. มั่นคง บางบอน จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตโครงสร้างสำเร็จรูป และติดตั้งโครงสร้างคอนกรีตสำเร็จรูป โครงสร้างสําเร็จรูป ???????????????????? precast ข้อได้เปรียบของการติดตั้งโครงสร้างสำเร็จรูป งบประมาณถูกกว่า สามารถติดตั้งเสร็จอย่างรวดเร็ว มีความมั่นคง แข็งแรง และปลอดภัย ที่ผลิตและควบคุมคุณภาพจากโรงงานที่ได้มาตรฐาน ผ่าน QC. ทุกขั้นตอน เราพร้อมให้บริการรับเหมาก่อสร้างโรงงาน รับก่อสร้างอาคาร รับก่อสร้างอาคารพาณิชย์ โดยผู้เชี่ยวชาญและทีมงานมืออาชีพที่พร้อมให้บริการลูกค้าด้วยความจริงใจ
---------------------------------------------
บทความที่เกี่ยวข้อง
มาทำความรู้จัก บริษัท ช.มั่นคง บางบอน จำกัด
ข้อควรระวังงานก่อสร้างด้วยระบบพรีคาสท์คอนกรีต
5 ข้อที่เจ้าของโกดังต้องรู้ก่อนการเริ่มปลูกสร้าง 

Projector BenQ รุ่นตัวท็อป ผลิตด้วยเทคโนโลยี DLP ที่คุณไม่ควรพลาด !!

Projector BenQ รุ่นตัวท็อป ผลิตด้วยเทคโนโลยี DLP ที่คุณไม่ควรพลาด !!

 

 

         ถ้าคุณกำลังมองหาโปรเจคเตอร์ที่มีคุณภาพเยี่ยมและเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการใช้งานต่างๆ Projector BenQ ถือเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่มีชื่อเสียง เป็นที่ยอมรับในระดับสากล Projector BenQ มีการผลิตและการออกแบบโดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยและมีคุณภาพสูง ส่งผลให้ภาพแสดงผลคมชัด สีสันสมจริง อีกทั้ง BenQ ยังเป็นแบรนด์ที่มีโปรเจคเตอร์ให้ลูกค้าเลือกสรรหลายรุ่น ผู้ใช้งานสามารถเลือกรุ่นที่ต้องการเพื่อนำไปติดตั้งโปรเจคเตอร์ในที่ประชุม งานสัมมนา หรืองานอีเว้นท์ งานจัดแสดงสินค้า ฯลฯ ตามความต้องการของตัวเอง

 

 

 

         ทำไม Projector BenQ ได้รับการยอมรับว่าเป็นในหนึ่งในแบรนด์โปรเจคเตอร์ที่ดีที่สุด

 

         1.อุปกรณ์โปรเจคเตอร์คุณภาพสูง: BenQ เป็นแบรนด์ที่มุ่งมั่นในการผลิตโปรเจคเตอร์ที่มีคุณภาพสูง ด้วยการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยและการออกแบบที่ให้ความสำคัญกับรายละเอียดและความคมชัดของภาพ ผลิตภัณฑ์ของ BenQ มักมีความสามารถในการฉายภาพที่คมชัดและสีสันสมจริง
         2.BenQ มีหลากหลายรุ่นให้เลือกใช้งาน: ยี่ห้อเบ็นคิว มีโปรเจคเตอร์ที่หลากหลายรุ่นให้เลือกตามความต้องการของผู้ใช้งาน เหมาะสำหรับการติดตั้งใช้งานทั่วไป มีคุณสมบัติที่ตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้ เช่นความสว่างที่สูง ความละเอียดสูง การตอบสนองและความสามารถในการเชื่อมต่อ
         3.ลูกค้าไว้วางใจและเชื่อถือในผลิตภัณฑ์: projector BenQ ลูกค้าที่ใช้ผลิตภัณฑ์เบ็นคิว ต่างมีความพึงพอใจในคุณภาพและประสิทธิภาพของงานระบบภาพและเสียงของโปรเจคเตอร์สูง
         4.บริการหลังการขายลูกค้าเป็นเลิศ: เบ็นคิว มีศูนย์บริการหลายแห่งที่พร้อมให้ความช่วยเหลือและคำแนะนำลูกค้า มีการรับประกันที่เป็นที่น่าเชื่อถือและการแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว รวมถึงมีบริการศูนย์รับซ่อมโปรเจคเตอร์อีกด้วย
         5.BenQ เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงและได้รับความน่าเชื่อถือระดับสากล: เครื่องฉาย Projector BenQ เป็นนวัตกรรมที่น่าทึ่งและมีการพัฒนาที่ต่อเนื่อง จนได้รับการยอมรับและได้รับรางวัลจากองค์กรต่างๆ เช่นรางวัล The Worldwide DLP Projector ยาวนานถึง 9 ปีต่อเนื่อง

 

 

 

ห้ามพลาด! Projector BenQ รุ่น MW560 ภาพสวยคมชัด ด้วยเทคโนโลยี DLP

 

 

 

 

         โปรเจคเตอร์ เบ็นคิว รุ่น MW560 (4,000 lm / WXGA) ที่มีดีไซน์ทันสมัย เลนส์ผลิตมาจากกระจกให้ภาพคมชัด ออกแบบป้องกันฝุ่น ออกแบบสไตล์ SmartEco ประหยัดพลังงานถึง 70% ทำให้อายุการใช้งานยาวนาน ช่องเชื่อม 1 VGA Input & 1 VGA Output และช่องเชื่อม HDMI x 2 น้ำหนักโปรเจคเตอร์ 2.3 กิโลกรัม ตัวเครื่อง 3 ปี หลอดภาพ 1 ปีหรือ 1,000 ชั่วโมง
         จุดเด่นอีกประการหนึ่งของ Projector BenQ รุ่น MW560 คือ การผลิตที่ใช้เทคโนโลยี DLP (Digital Light Processing) ที่สามารถฉายภาพด้วยความสมจริง แม่นยำ เที่ยงตรง แสดงค่าสีถูกต้อง ใช้งานได้ยาวนาน ถึง 100,000 ชั่วโมง เนื่องจากตัว DLP Chip ประกอบด้วยกระจกขนาดเล็กที่ดีไซน์ให้อยู่ในกรอบที่ปิดผนึกเกือบทุกส่วน ทำให้สามารถป้องกันความร้อนหรือฝุ่นได้ดี โดยไม่มีการเสื่อมสภาพ ผู้ใช้งานโปรเจคเตอร์ เบ็นคิว จึงมั่นใจได้ว่าภาพฉายจะสดและคมชัดตลอดเวลา แม้ใช้งานมาเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน
         หากสนใจสินค้าโปรเจคเตอร์ BenQ รุ่น MW560 หรือโปรเจคเตอร์รุ่นอื่นๆ บริษัท พี.เอส. สมาร์ท เทคโนโลยี จำกัด เป็นตัวแทนจัดจำหน่ายอุปกรณ์ฉายโปรเจคเตอร์ 4k ระดับพรีเมียม ในหลากหลายราคา หลากหลายรุ่น และหลากหลายแบรนด์ชั้นนำ
         เรายังให้บริการงานติดตั้งระบบภาพและเสียง ไม่เพียงแต่จะติดตั้งโปรเจคเตอร์และจอรับภาพโปรเจคเตอร์ เท่านั้น แต่เรายังรับติดตั้งระบบเสียงในห้องประชุม โรงเรียน มหาวิทยาลัย โดยมีทีมช่างเดินสายไฟและสายสัญญาณ ครบเซ็ท พร้อมใช้งาน

 

 

 

         สนใจติดต่อ
         Website: www.pssmart.com
         Tel. 0-2138-2933-6, Hot Line 09-3442-9239
         Email : [email protected]
         Facebook : ProjectorSmart
         Line ID : @pssmart

 

 

 

-----------------------------------------------------------------------------------------------
         อ้างอิงข้อมูลเขียน
        จำหน่ายโปรเจคเตอร์ benq  ชื่อบทความ: รู้จักกับเทคโนโลยี DLP
         URL: https://www.benq.com/th-th/knowledge-center/knowledge/dlp-projection-technology.html

1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15